หน้าหลัก

ขำขัน นิทานในวงเหล้า

รวบรวมและเหล้า..เอ้ย! เล่าโดย.... "เซียนดาบ"

เรื่องที่  1

แฟชั่นกระโปรงผู้หญิง ขึ้นๆ ลงๆ สั้นๆ ยาวๆ ผ่าหน้า ผ่าหลัง ตามแต่โลกจะนิยม....กระโปรงมีผลต่อการทำงานของผู้หญิงไม่น้อย
เลขา : ฉันเลิกนุ่งกระโปรงยาวแล้ว ..... ไม่ไหวทำงานหนัก เหนื่อยจัง สู้ใส่กระโปรงสั้นๆ ไม่ได้
เสมียน : จริง...กระโปรงยาว ทำงานไม่ค่อยสะดวก มันรุ่มร่าม
เลขา : ไม่ใช่ยังงั้น
เสมียน : แล้วทำไมล่ะ
เลขา : วันไหนฉันนุ่งกระโปรงยาว ผู้จัดการนั่งดูฉันทำงานทั้งวัน ไม่ได้หยุดพักเลย .... ฉันนุ่งกระโปรงสั้นวันไหน....ผู้จัดการนั่งดูขาฉันทั้งวัน....ไม่ถามเรื่องงานเลย

เรื่อง ที่ 2

ในชั่วโมงสร้างเสริมประสพการณ์ชีวิตชั้น ป.6 ครูสอนเรื่องธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตจบลง จึงถามนักเรียน
ครู : สุริยะ ... เป็ด ไก่ และ ห่าน เรียกร้องความสนใจอย่างไร
ด.ช.สุริยะ : ส่งเสียงร้องครับ
ครู : ถูกต้อง... สาโรช ลิง ค่าง บ่าง ชะนี ... เรียกร้องความสนใจอย่างไร
ด.ช.สาโรช : มันจะกระโดดโลดเต้นครับคุณครู
ครู : ถูกต้อง...นกยูง เรียกร้องความสนใจอย่างไร จำลอง
ด.ช.จำลอง : มันจะคลี่ปีกลำแพนหางครับคุณครู
ครู : ถูกต้อง....สนธิ เธอว่า คน เรียกร้องความสนใจอย่างไร
ด.ช.สนธิ : ปลุกม็อบ ปิดถนน ครับคุณครู

เรื่องที่ 3

" พ่อครับๆ"ลูกชายตะโกนจากในสวน
"รถถูกขโมย"
"เห็นไหมว่าใครเอาไป"
" เห็นครับ"
"จำหน้าได้ไหม"
"จำไม่ได้ แต่ผมจดทะเบียนรถเราไว้แล้ว"

เรื่องที่ 4

ชายหนุ่มอ่านหนังสือพิมพ์ พบเรื่องของนักแสดงสาวสวยแต่งงานกับนักกีฬาที่มีชื่อเสียง
โด่งดัง แต่ไอคิวต่ำเหลือหลาย เขาจึงหันไปพูดกับภรรยาว่า
" ทำไมผู้ชายโง่ๆ ถึงได้เมียสวยนะ"
"จะเพราะอะไรก็ช่างเถอะ แต่ขอบคุณนะที่ชม" ภรรยากล่าว

เรื่องที่ 5

คู่แต่งงานใหม่เพิ่งจะถูกส่งตัวเข้าห้องหอ
" น้องมีเรื่องจะสารภาพค่ะ" เจ้าสาวหมาดๆ บอก
"น้อง เคยผ่านผู้ชายมาแล้ว"
" ไม่เป็นไรหรอกพี่เข้าใจ" เจ้าบ่าวหมาดๆ ปลอบ
"พี่ก็เคยผ่านผู้ชายมาแล้วเหมือนกัน..."

เรื่องที่ 6

สาวเนื้อหอมนางหนึ่ง อาศัยอยู่คนเดียวในบ้านที่ค่อนข้างเปลี่ยว
คืนนั้น.... ยังไม่ทันดึกมีเสียงปล้ำอึกอักดังมาจากห้องนอน
เสียงผู้ชายคำรามเหี้ยมปนหอบ
"ถ้าเอ็งส่งเสียงข้าเอาตายจริงๆด้วย "
เงียบไปสักอึดใจ มีเสียงสาวเนื้อหอมกระเส่าสั่น
"ขอ...ครางได้มั้ยจ๊ะ.."

เรื่องที่  7

หนุ่มหนึ่งเดินทางไปทำงานยังต่างแดนเป็นเวลาหนึ่งปี

ปล่อยให้เมียสาวที่เพิ่งแต่งงานไม่นานอยู่เฝ้าบ้านเพียงลำพัง

พอครบปีเดินทางกลับมาพบว่า เมียสาวของเขาตั้งท้องได้ห้าเดือนกว่าๆแล้ว

สามี : "นี่เธอบอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าใครเป็นพ่อของเด็ก ใช่ไอ้โจเพื่อนร่วมก๊วนสุราของฉันหรือเปล่า ?"

เมียสาวก้มหน้าร้องไห้พร้อมกับส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่ใช่

สามี : "งั้นไอ้ปื๊ดเพื่อนฉันตอนเรียน ป.ตรี ?"

เมียสาวยังคงส่ายหน้า

สามี : "ถ้างั้นต้องเป็นไอ้ปู๊ด เพื่อนเรียน ม.ปลายของฉันแน่ ๆ ใช่หรือเปล่า"

เมียสาวสวนคำทันที : "นี่! คำก็เพื่อนเธอสองคำก็เพื่อนเธอ เพื่อนฉันไม่มีหรือไงยะ ? "
 

เรื่องที่  8

ค่ำคืนวันแต่งงาน หลังจากส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอไม่นาน ก็มีเสียงสนทนาเล็ดลอดออกมาจากห้องหอเบา ๆ

"ที่รักจ๊ะทำไมมันหลวมจังเลยล่ะ ?"

อีกเสียงตอบกลับ

"เอ มันไม่น่าจะหลวมนะ ของเธอเล็กเองหรือเปล่า ? มาว่าของเค้าหลวมน่ะ ?"

"เป็นไปไม่ได้ ของฉันมันก็เท่านี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ มันหลวมจริง ๆ"

"ช่างเถอะ ๆ ดึกแล้ว นอนเถอะที่รัก

แหวนมันหลวมเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะพาไปเปลี่ยนใหม่

แปลกจริง ๆ ก่อนหมั้นก็พาไปเลือกลองใส่ดูแล้ว ไม่น่าจะหลวมนะ "

เรื่องที่  9
 

สองสามีภรรยาเกี่ยวข้าวอยู่กลางทุ่งนาท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดแดดแผดจ้า

ในขณะนั้น ตำรวจวิ่งไล่จับคนลักลอบเล่นการพนันลงมากลางทุ่งนาเห็นแต่ไกล

ฝ่ายสามีให้สงสัย จึงเอ่ยปากถามภรรยา

สามี : "เอ๊ะ! นั่นตำรวจมาจับอะไรน่ะเธอ ?"

ฝ่ายภรรยา ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย จึงเอ่ยตอบตัดรำคาญว่า

ภรรยา "จะไปรู้แม่งเรอะ .... สงสัยตำรวจเค้าจะมาจับคนแอบล่อ X ควายมั้ง ? "

จบคำสามีทิ้งเคียวลงกับพื้นโกยแน่บปล่อยให้เมียยืนงุนงงอยู่

ภรรยา "อ้าว....ไอ้นี่.....แอบล่อ X ควายเรอะ? "

 

เรื่องที่  10

หนุ่มคนหนึ่งพาสาวสวยมาที่บ้านพัก

ซึ่งแวดล้อมไปด้วยเสียงของนกไนติงเกลสม่ำเสมอ

ขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มเข้าห้องน้ำอยู่

ดังนั้นจึงผายลม(ตด)ออกมาเสียงแหลมปี๊ด

พอดีกับที่ชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำ

ด้วยความอายสาวเจ้าจึงพูดกลบเกลื่อน

หญิงสาว : "อุ๊ย! คุณได้ยินเสียงนกไนติงเกลไหมคะ ?"

ชายหนุ่ม : "ไม่ได้ยินนะ...

ว่าแต่ว่า...

มันร้อง ก่อน หรือ หลัง เธอตดล่ะ ? "....

 

เรื่องที่  11

หลังจากโรงเรียนเลิก ครูปราณีเดินผ่านมา

เห็น ด.ช.พลับ นั่งซึมอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้จึงเดินเข้าไปถาม

ครูปราณี : "อ้าวพลับทำไมยังไม่กลับบ้านอีก มานั่งซึมทำไม ? "

ด.ช.พลับ : "ผมไม่อยากกลับบ้านครับครู ผมอับอายจนทนไม่ได้"

ครูปราณี : "มีเรื่องอะไรล่ะ ไหนเล่าให้ครูฟังซิ ?"

ด.ช.พลับ : "ก็ที่บ้านผม ญาติพี่น้องผม พากันทำเรื่องน่าอับอาย ได้เสียกันหมดแล้ว"

ครูปราณี : "ไหนเธอลองอธิบายให้ครูฟังซิ ?"

ด.ช.พลับ : "ที่บ้านผม ปู่ก็ได้กับย่า ตาก็ได้กับยาย ลุงก็ได้กับป้า

และที่ผมทนไม่ได้ที่สุดก็คือ เมื่อคืนนี้ ผมพบว่า

พ่อกับแม่ ได้เสียกันแล้ว"

ครูปราณี...........

เรื่องที่  12

สามีภรรยาคู่หนึ่ง ตกลงกันไว้ว่า หากต้องการมีอะไรกุ๊กกิ๊กกัน ให้ส่งรหัสว่า"พิมพ์ดีด"
วันหนึ่งหลังรับประทานอาหารเย็น สามีก็เกิดความต้องการ จึงให้ลูกไปบอกแม่ที่กำลังล้างจานว่า

"ให้รีบล้างจานเร็วหน่อย พ่อจะให้ช่วยพิมพ์ดีด"

แม่กำลังเหนื่อยล้างจานก็ไม่เสร็จจึงให้ลูกไปตอบพ่อว่า

"เครื่องพิมพ์เสีย ซ่อมยังไม่เสร็จ"

จนแม่ล้างจานเสร็จแล้ว หายเหนื่อยแล้ว ก็เกิดสงสารพ่อขึ้นมา จึงให้ลูกไปบอกพ่อว่า ซ่อมเครื่องพิมพ์เสร็จแล้ว ให้พ่อเตรียมงานไว้ เดี๋ยวจะไปช่วยพิมพ์ให้
พ่อตอบมาว่า

"บอกแม่ด้วยนะลูก ไม่ทันแล้วหละ พ่อเขียนด้วยมือเสร็จแล้ว"

 

เรื่องที่  13

....มีค้างคาวดูดเลือดสามตัวเป็นเพื่อนกันมานาน พากันอาศัยอยู่ในถ้ำเล็กๆแห่งหนึ่ง ในละแวกนั้นมีการแย่งที่อยู่กันมากเนื่องจากปัญหาประชากรที่ไม่ได้มีการวางแผนครอบครัว

ดังนั้นพวกมันจึงไม่อาจที่จะละทิ้งถ้ำไว้แล้วออกไปหากินพร้อมกันทั้งสามตัวได้ พวกมันจึงตกลงกันว่าจะผลัดกันออกหากินทีละตัว ตัวละสามชั่วโมง เมื่อทุกตัวยอมรับมติที่ประชุมแล้

ว พอตกเย็นเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ตัวที่หนึ่งจึงออกไปหากินก่อน แต่มันไปเกินเวลาที่กำหนดไว้ร่วมชั่วโมงทีเดียวเพื่อนที่รอก็พากันหิว จนเวลาห้าทุ่มเศษตัวที่หนึ่งจึงกลับมา มันได้กินแค่นิดเดีย

ว ดูที่ปากแล้วไม่มีรอยเลือดติดอยู่เลย คาดว่าคงกินผลไม้มา พอตัวที่หนึ่งมาถึงตัวที่สองก็ออกไป คราวนี้ มันก็เลยกินเวลาของตัวที่สามบ้าง โดยมันไม่คิดเลยว่าตัวที่สามรอจนไส้กิ่วแล้ว

เวลาประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ตัวที่สองจึงกลับมา แต่มันก็ไม่ได้กินมากไปกว่าตัวแรกเท่าใดนัก ตัวที่สามพอเห็นตัวที่สองเข้ามาก็เลยต่อว่า

“ไปยังไงวะ ข้ารอตั้งนาน ได้กินแค่นี้เอง”

พูดจบมันก็รีบรุดออกไป ผ่านไปห้านาที มันก็กลับเข้ามาแถมเอามือเช็ดเลือดที่ติดอยู่ที่ปากท่าทางจะอร่อยน่าดู สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนค้างคาวทั้งสองยิ่งนัก เพราะพวกมันได้กินแต่ผลไม้ จึงพากันถาม

ตัวที่ 1 “แกไปหากินยังไงวะถึงได้เร็วขนาดนั้น แถมได้เลือดมาด้วย”

ตัวที่ 3 ย้อนถาม “พวกแกเห็นต้นไม้ใหญ่หน้าถ้ำไหมวะ?”

ตัวที่ 1 “เห็น”

ตัวที่ 2 “ข้าก็เห็น”

ตัวที่ 3 “ เออ!นั่นแหละ ข้าไม่เห็น “

เพื่อนๆ !!!!!!!!!!

 

เรื่องที่  14

มาเล่าเรื่อง ขำ ๆ ในวันสุข ก่อนจะถึงวันหยุดดีกว่าครับ

หนุ่มน้อยชาวเขาเผ่าหนึ่ง ซึ่งได้หมั้นหมายกับสาวน้อยแรกรุ่นต่างเผ่า
ด้วยความคิดถึงทรวดทรงอันอวบอิ่ม สมวัยแรกสาวบานสะพรุ่งของคู่หมั้นหมาย....หนุ่มชาวเขาตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะออกเดินทางไปเยี่ยมเยียนคู่หมั้นสาวให้หายคิดถึง
เย็นวันนั้นหนุ่มบอกกับแม่ของเขาว่า กางเกงในที่ใส่อยู่มันเก่ามากแล้ว ใส่มา 3 เดือนยังไม่เคยเปลี่ยนเลย แม่ช่วยไปซื้อผ้ามาตัดให้ใหม่ที
แม่ของหนุ่มรีบรุดออกไปตลาดซื้อผ้าใหม่มา 5 เมตร และ ตัดเย็บกางเกงในอย่างประณีตสุดฝีมือให้ไอ้หนุ่มของเรา โดยใช้ผ้าหมดไป 2 เมตร ยังเหลือเก็บไว้อีก 3 เมตร
รุ่งเช้าหนุ่มชาวเขาของเราก็รีบใส่กางเกงในตัวใหม่เอี่ยมแล้วสวมผ้าเตี่ยวทับ และออกเดินทางไปหาคู่หมั้นสาวทันทีมิรีรอ ระหว่างทางเกิดปวดท้องหนักกะทันหัน ต้องแวะป่าข้างทางเพื่อปลดทุกข์ ไอ้หนุ่มกลัวกางเกงในใหม่จะเปื้อนจึงถอดแขวนไว้กับกิ่งไม้
แต่ด้วยอารามรีบร้อนอยากพบหน้าคู่หมั้นสาว เมื่อเสร็จภารกิจก็รีบออกเดินทางในทันที
.....อนิจจา ไอ้หนุ่มของเราลืมใส่กางเกงในที่แขวนไว้กับกิ่งไม้ไปด้วย
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านคู่หมั้นสาวในตอนเย็น ว่าที่พ่อตาได้จัดให้มีงานเลี้ยงต้อนรับที่บ้าน โดยทุกคนนั่งล้อมวงรับประทานอาหารเย็น
ไอ้หนุ่มของเราเลือกนั่งตรงข้ามกับคู่หมั้นสาวเพื่อจะโชว์กางเกงในตัวใหม่ของเขาให้คู่หมั้นสาวดู
ไอ้หนุ่มพยายามนั่งกางขาอย่างเต็มที่เพื่อให้คู่หมั้นสาวได้เห็นกางเกงในตัวใหม่ของเขาได้ชัดๆเต็มตา
เมื่อคู่หมั้นสาวได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในผ้าเตี่ยว.....ก็เกิดอาการช็อคอ้าปากค้าง.....
....ไอ้หนุ่มกระหยิ่มในใจคิดว่าคู่หมั้นสาวประทับใจในกางเกงในตัวใหม่ของเขา จึงลองถามออกไปว่า..

“ชอบไหมจ๊ะที่รัก...ผมยังเหลืออีกตั้งสามเมตรเก็บไว้ที่บ้านนะ”

คู่หมั้นสาวเป็นลมหงายหลังตึงในทันที.......

 

เรื่องที่  15

เคยมีเพื่อนซี้แหงย่ำปึ้กอยู่คนนึง เป็นเพื่อนร่วมงานกันด้วย เรียกว่าเป็นบัดดี้กันเลย แต่ตอนนี้แยกย้ายกันไปตามภาระหน้าที่
เพื่อนคนนี้มีลูกชายอยู่คนหนึ่ง ตอนนั้น ก็อายุประมาณหกขวบ
วันหนึ่ง เพื่อนก็มาบ่นให้ฟัง

เพื่อน : “ไม่ไหวว่ะ เราสงสัยลูกชายเราท่าทางจะขี้แย... แม่งใจเสาะอิ๊บอ๋ายเลยว่ะ”

เราก็ปลอบใจไปตามประสา : “ยังเด็กอยู่มั้งเพื่อน... แล้วมีไรล่ะ ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น”

เพื่อน : “ก็เมื่อวานดิ่.. แม่งไปเล่นซนในครัว

ทำสากกระเบือครกหิน ตกใส่หัวแม่ตีนหน่อยเดียว

ร้องไห้ซะลั่นบ้านเลย”

 

เลขาตัวดี

เลขาสาว 3 คน จับกลุ่มนินทานายตามประสาเลขาที่ดี
เลขา 1 : "นี่ๆ พวกเธอรู้หรือเปล่า ในลิ้นชักโต๊ะเจ้านายเราน่ะ มีถุงยางอยู่ตั้ง 4 อันแน่ะ"
เลขา 2 : "โธ่เอ๊ย ชั้นรู้มาตั้งนานแล้วล่ะ เมื่อเย็นวานชั้นยังแอบเอาเข็มหมุด ไปเจาะเล่นทุกอันเลย"
เลขา 3 : "...เอิ้ก...." แล้วเป็นลมล้มตึงไปทันที

รู้จักผมไหม

ฮักเกตต์ เพิ่งได้รับการบรรจุเป็นพลทหาร ประจำหน่วยยานยนต์ได้ไม่นาน วันหนึ่งเขาได้รับโทรศัพท์
"ทหาร ขอรายชื่อรถที่สามารถใช้งานได้ทันที" เสียงสั่งมาตามสาย
"ครับ เรามีรถถังสองคัน รถทหารหกคัน รถหุ้มเกราะขนาดเล็กสองคัน รถมอเตอร์ไซด์
แล้วก็รถจี๊ปของผู้พันจอห์นสันก้นใหญ่"
"พลทหาร รู้ไหมว่ากำลังพูดอยู่กับใคร"
"ไม่ทราบครับผม"
"ฉันพันตรีจอห์นสัน"
"เออ ท่านครับ ท่านรู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอยู่กับใคร"
"ไม่ ไม่รู้"
"อ่าฮ้า....ม่ายรู้ก็ดีแล้ว ลาก่อนไอ้ก้นใหญ่" ว่าแล้วพลทหารก็วางหูโทรศัพท์ แล้วเผ่นหายไปในพริบตา

แจกรถ

ทอมมี,แพตแล้วก้อโจทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนรักกันแล้วเขาไปทานเหล้าทีบ้านเพื่อนเสร็จก้อขับรถกลับพร้อมกันแลัวแล้วรถเกิดเสียหลักชนกับเสาไฟฟ้าตายทั้ง 3 คน เมื่อตายแล้วทั้ง3คนก้อได้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ในสสวรรค์นั้นทุกคนจะมีรถขี่กันทุกคนเลย ทั้ง 3 คนจะต้องไปเอารถที่เจ้าพนักงาน
เมื่อไปถึงพนักงานจะต้องถามที่เหมื่อนกันทุกๆคน พนักงานก้อถามทอมมี่ก่อน คำถามที่ถาม คื่อ "คุณเคยนอกใจภรรยาของคุณหรือไม่"
ทอมมี่ ก้อ บอกว่า "ผมไม่เคยนอกใจภรรยาผมเลย" พนักงานได้ยินก้อให้รถเก่ง1คันไปใช้
แล้วก้อมาถึงแพต พนักงานถามแพตเหมื่อนที่ถามทอมมี่
แพตก้อตอบว่า "ผมเคย 2-3 ครับแต่ว่าทุกครังผมจะต้องบอกภรรยาเสมอว่าไปที่ไหนกับใคร" พนักงานได้ยินก้อให้รถปิ๊กอัพ 1 คันไปใช้ต่อไปก้อถึงคำถามที่โจต้องตอบ
โจ ก้อ ตอบว่าไปว่า "ผมเคยนอกใจ 2-3 ครับแล้วก้อไม่ได้บอกกับภรรยาครับ"
พนักงานได้ยินดังนั้นก้อให้มอเตอร์ไซต์ 1คันไปใช้ ทุกคนก้อได้รถไปใช้ทุกคนเวลาที่ใช้ชีวิตบนสวรรค์
ก้อผ่านไป 10 วันและแล้ววันหนึ่ง โจก้อขี่มอเตอร์ไซมาหาทอมมี่และแพตด้วยสีหน้าไม่ดี
โจเล่าว่า "วันนี้เราขี่มอเตอร์ไซสวนทางกับภรรยาเรานะ"
แพตก้อพูด "แก่น่าจะดีใจนะที่ได้เห็นภรรยานะแล้วทำไม่ถึงทำหน้าเศร้าลละ"
โจก้อ ตอบว่า "จะไม่ได้เศร้ายังไงละก้อตอนขับรถสวนทางกันนะเราเห็นภรรยาเรา เดินนะ "

แจ๋วกว่า

ท่านบาทหลวงกับโชเฟอร์ขับแท็กซี่ตายในเวลาเดียวกัน แต่แทนที่บาทหลวงจะได้ขึ้นสวรรค์กลับปรากฎว่าโชเฟอร์ได้ขึ้นไปแทน บาทหลวงผิดหวังมากจึงโวยวายกับยมพบาล "ยังงี้มันไม่ยุติธรรมชัดๆ ข้ามีหน้าที่เทศนาสั่งสอนให้คนทำความดีจนปากเปียกปากแฉะแต่กลับตกนรก ส่วนเจ้าโชเฟอร์นั่นพูดคำสบถคำ ขับรถเป็นพายุบุแคม ผู้โดยสารแทบจะเป็นลมตาย มันกลับได้ขึ้นสวรรค์"
"เจ้าพูดถูก" ยมพบาลยอมรับ
"แต่ทุกครั้งที่เจ้าเทศน์คนฟังจะหลับหมด ส่วนเจ้าโชเฟอร์นั่นทำงานเมื่อไหร่ คนจะตาโตระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าทุกที"

ยาแก้

หนุ่มหล่อเข้าไปในร้านขายยาที่มีเจ้าของร้านเป็นสาวสวยสองนาง
"ผมเป็นโรคอะไรไม่รู้ เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้เลย มันซู่ซ่าส์ไม่หยุด" ชายหนุ่มบอกอาการ
"ทุกครั้งที่เห็นผู้หญิง ผมจะต้องเข้าไปกอดเธอ จูบเธอ และร่วมรักกับเธอทุกครั้ง บางคนเขา
ไม่เต็มใจผมก็ต้องจ่ายเงินให้เธอจนเงินเดือนผมแทบไม่พอใช้ นี่ผมเห็นคุณสองคนก็เริ่มมีอาการอีกแล้ว
ช่วยจัดยาให้ผมที"
สองสาวหันไปกระซิบกระซาบกันแล้วหันมาบอก
"อาการนี้เราจัดยาแก้ให้ไม่ได้หรอก" สองสาวขายยาบอก
"แต่เราช่วยแก้ปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้ได้ เราจะจ่ายให้คุณสัปดาห์ละ 50 เหรียญ ถ้าคุณมาหาเรา
ที่ห้องทุกครั้งที่เกิดอาการแบบนี้"

เลือกเอา

ชายคนนึงไปหาหมอ บอกว่าภรรยาเขาไม่ยอมมีเซ็กส์กับเขาเป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว
หมอบอกว่าให้เขาไปพาภรรยามาเพื่อสอบถามสาเหตุ เมื่อภรรยามาหา หมอถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น
ทำไมถึงไม่ยอมมีเซ็กส์กับสามีของเธอ
เธอเล่าว่า
"7 เดือนที่ผ่านมานี้ ทุกๆ เช้าฉันจะนั่งรถแท็กซี่ แต่ฉันไม่มีเงิน...
คนขับแท็กซี่ถามฉันว่า คุณจะจ่ายเงินตอนนี้ หรือยอมมีเซ็กส์กับผม
ฉันก็ยอม... ฉันเลยไปทำงานสาย หัวหน้าก็ถามฉันว่า คุณจะให้ผมบันทึก ลงไปหรือยอมมีเซ็กส์ กับผม
ฉันก็ยอมหัวหน้า...
ตอนกลับบ้านฉันก็ไม่มีเงินเหมือนกัน แล้วคนขับแท็กซี่ก็ถามฉันว่าคุณจะ จ่ายเงิน หรือว่ายอมมีเซ็กส์ กับผม
ฉันก็ต้องยอมอีกครั้ง...
พอฉันกลับถึงบ้านฉันก็เหนื่อยแล้วก็ไม่อยากมีเซ็กส์อีก"
หมอพูด "แล้วคุณจะให้ผมบอกสามีของคุณ หรือยอมมีเซ็กส์กับผม ?"

ตาผมไม่บอด

ณ ลานจอดรถหน้าตึกคณะเภสัชศาสตร์
ยาม "คุณ ไม่เห็นป้ายที่เขาเขียนว่าที่จอดรถสำหรับอาจารย์ พิเศษหรือนั่น"
ใครคนหนึ่ง "เห็นซี ตาผมไม่บอดหรอก"
ยาม "เห็นแล้ว ทำไมถึงจอดรถตรงนั้นล่ะ"
ใครคนนั้น "ก็ผมอ่านหนังสือออกที่ไหนล่ะ"

เมาไม่รู้เรื่อง

ขี้เมาหยิบกุญแจรถมาจิ้มลมอยู่นานสองนาน ในที่สุดก็เดินแอ่นขึ้นไปบนโรงพัก
"เป็นอะไรหรือ" ตำรวจถาม
"คุณตำรวจครับ รถผมโดนขโมย" ขี้เมาบอก
"ลื้อรู้ได้ยังไงว่ารถโดนขโมย"
"ก็มันหายไปจากลูกกุญแจนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้" ขี้เมาเขย่ากุญแจในมือให้ดู
"ลื้อไปนั่งให้สร่างเมาก่อนไป๊" ตำรวจส่ายหัวอิดหนาระอาใจ
"เฮ้ย เก็บไอ้จู๋ให้เรียบร้อยด้วย" ตำรวจชี้เป้ากางเกงขี้เมาที่ปล่อยให้ไอ้หนูห้อยออกมานอกซิป
"ตายห่า!!" ขี้เมาก้มลงมองและร้องอย่างตกใจ
"ใครขโมยเมียกูไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"

สาวบริสุทธิ์

ในงานเต้นรำของหญิงชายวัยดึก ชายชราคนหนึ่งได้คู่เต้นรำกับสาวทึนทึกนางหนึ่ง เขาและเธอ เต้นรำกันจนค่อนคืน ชายวัยดึกนึกฝันถึงการพาสาวคู่เต้นไปเที่ยววิมาน
เขาชักชวนสาวคู่เต้นพร้อมเสนอค่าตอบแทนให้ 20 เหรียญ ซึ่งสาวก็ตกลง ทั้งสองจึงออกจากงาน ไปที่บ้านพักของฝ่ายชาย
หนุ่มวัยดึกเปิดฉากโรมรันพันตูสาวสูงวัยอย่างทุลักทุเล เขาเพิ่งตระหนักว่าเขาได้พาสาวมาทำลาย ความบริสุทธิ์ เพราะเธอทั้งคับและยากเย็นจริงๆ
หลังจากเผด็จศึกเธอได้ เขาก็นอนกอดก่ายเธอไว้และพูดว่า
"นี่ถ้ารู้มาก่อนว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ ฉันไม่เสียดายเลยที่จะจ่ายให้ 50 เหรียญ"
สาวเจ้ากระซิบตอบ
"ถ้าฉันรู้ว่าของคุณจะแข็งใช้งานได้จริงๆ ฉันคงถอดกางเกงในให้แล้วล่ะ"

บอกแล้วว่าฟิต

หนุ่มกลัดมันผู้หนึ่ง อยากได้หญิงไปนอนด้วยเป็นกำลัง จึงต้องไปพึ่งโสเภณีผู้หนึ่ง
ชายหนุ่ม : ที่ว่าเพิ่งทำงานได้ไม่นาน ยังใหม่ๆ อยู่จริงเหรอ
โสเภณี : โธ่ ไม่เชื่อพิสูจน์ก่อนได้เลยนะคะ
ว่าแล้ว โสเภณีก็ให้ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้าไป...
โสเภณี : เป็นไงบ้างคะพี่
ชายหนุ่ม : ไม่เห็นจะฟิตเลยนี่
โสเภณี : โถ คุณพี่ขา ใช้แค่นิ้วเดียวจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ
ว่าแล้ว ชายหนุ่มก็เพิ่มเป็นสองนิ้ว
โสเภณี : เป็นไงบ้างคะพี่
ชายหนุ่ม : ก็ไม่เห็นจะฟิตเลยนี่
โสเภณี : โถ คุณพี่ขา แค่สองนิ้วเนี่ย จะรู้ได้ยังไงล่ะคะ
ว่าแล้ว ชายหนุ่มก็ลองเป็นครั้งที่สาม คราวนี้ใช้ทั้งมือเลย
ชายหนุ่ม : นี่ ใช้ทั้งมือแล้วนะ ไม่เห็นจะฟิตเลย
แล้วชายหนุ่มก็ลองใส่เพิ่มอีกมือนึง คราวนี้ทั้งสองมือก็เข้าไปเรียบร้อย
ชายหนุ่ม : นี่ ใช้ตั้งสองมือนะเนี่ย ยังใส่เข้าไปได้เลย ยังงี้เรียกว่าฟิตเหรอ
โสเภณี : โถ.. คุณพี่ลองตบมือดูสิคะ
ชายหนุ่ม : (ลองขยับตบมือดู) อือม.. ตบไม่ได้แฮะ
โสเภณี : (ยิ้มอย่างมีชัย) เห็นม๊า... บอกแล้วว่าฟิต

เด็กเสริฟ

แก๊บไปกินอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
มีสาวเสริฟคนใหม่เพิ่งมาทำงานได้สองเดือน
.
"สวัสดีค่ะ คุณจะรับอะไรดีค่ะ?"
"ผัดไทที่หนึ่ง ... คุณทำที่นี่นานหรือยัง? ไม่เคยเห็นหน้า!"
"ทำได้สองเดือนค่ะ เพิ่งย้ายมาจากจังหวัดอื่น"
"อืม... แล้วครอบครัวล่ะ?"
"สามีกับลูกสาวไม่ได้มาด้วย"
"ลูกสาวอายุเท่าไหร่แล้ว?"
"18 ค่ะ กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย"
"เรียนที่ไหน? คณะอะไร? เรียนเก่งใหม? ....? ....? ....?"
"ประทานโทษค่ะ ถามเยอะขนาดนี้จะอุปถัมภ์เหรอค่ะ!?

ผสมเทียม

ชาวนาคนหนึ่งซื้อหมูไว้หลายตัว ตั้งใจว่าจะเพาะพันธุ์เพื่อนำมาทำเป็น แฮม และ เบค่อน หลายอาทิตย์ผ่านไป เขาสังเกตว่ายังไม่มีหมูตัวไหนท้องซักกะที ก็เลยโทรหาสัตวแพทย์เพื่อขอความช่วยเหลือ สัตวแพทย์บอกเขาว่า น่าจะลองทำการผสมเทียมดู ชาวนาไม่รู้เลยซักกะจิ๊ดเลยว่า "ผสมเทียม" นั้นคืออะไร แต่ก็ไม่อยากแสดงความไม่รู้ออกมา ก็เลยเพียงแต่ถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าหมูนั้นตั้งท้อง สัตวแพทย์บอกว่า หมูจะลงไปนอนคลุกดินชาวนาวางหูลงและเริ่มไตร่ตรองถึงเรื่องนี้

ในที่สุดก็สรุปเอาเองว่าการผสมเทียมนั้นแปลว่าเขาจะต้องเป็นผู้ทำให้หมูนั้นตั้งท้องเสียเอง ดังนั้นเขาจัดการขนหมูขึ้นรถ ขับเข้าไปในป่า และ "ผสมเทียม" กับพวกมันทุกตัว เสร็จแล้วก็ขับรถกลับบ้านนอน ตื่นเช้าวันต่อมาเขาก็ไปดูหมูก็เห็นพวกมันก็ยืนระเกะระกะกันอยู่ ก็สรุปเอาเองอีกว่า ความพยายามครั้งแรกล้มเหลว ว่าแล้วก็ขนพวกมันขึ้นรถบรรทุกขับเข้าป่าอีก แล้วก็จัดการ "ผสมเทียม" พวกมันถึงตัวละ 2 ครั้งเพื่อความมั่นใจ เสร็จก็พาพวกมันกลับบ้านแล้วก็เข้านอน
ตื่นเช้าวันต่อมา เขาก็ยังเห็นพวกหมูยืนระเกะระกะเหมือนเดิม อีกซักครั้งเถอะวะ ! เขาบอกตัวเอง ว่าแล้วก็ขนพวกมันขึ้นรถขับเข้าป่า คราวนี้เข้าใช้เวลาทั้งวัน "ผสมเทียม" จากนั้นก็กลับบ้านหลับไปเหมือนตายด้วยความเพลีย

เช้าต่อมาเขาเพลียจนไม่สามารถลุกจากเตียงขึ้นมาดูหมูได้ แต่ก็ถามภรรยาว่าพวกหมูนั้นกำลังนอนคลุกดินกันอยู่หรือเปล่า "เปล่านี่"

ภรรยาตอบ "พวกมันพากันขึ้นไปอยู่บนรถบรรทุกกันเต็มไปหมดแล้ว และมีตัวนึงกำลังกดแตรเรียกคุณอยู่แน่ะ !"

วัวควายหาเงินไม่ได้

ครู : สุนัขเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านได้ แมวก็จับหนู แล้ววัวกับควายล่ะทำอะไรได้บ้าง? ”
นักเรียน : “ วัวกับควายหาเงินได้ครับ “
ครู : “ ทำไมล่ะ ”
นักเรียน : “ พ่อของผมพูดเสมอว่า
วันหนึ่งๆท่านต้องทำงานเป็นวัวเป็นควายก็เพื่อที่จะหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเราครับ “

เคยเห็นที่ไหน

ดาราสาวสวยผู้หนึ่ง ได้มาทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง บ๋อยจึงเดินเข้ามาถาม
“คุณผู้หญิงครับ รู้สึกผมจะเคยเห็นคุณมาก่อนที่ไหนสักแห่งหนึ่ง “
ดาราสาวผู้นั้นตอบอย่างภาคภูมิใจ “ คุณคงจะเคยเห็นดิฉันในโรงหนังกระมังคะ “
บ๋อยคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตอบ “ อาจจะใช่ครับ
เพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบดูหนังที่สุดเลยครับ ว่าแต่ว่าปกติคุณไปโรงไหนเหรอครับ ?”

บริการดีเยี่ยม

ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
บ๋อยยกกาแฟที่ร้อนจัดแก้วหนึ่งเสิร์ฟลูกค้าแต่ลืมให้ช้อนสำหรับคนกาแฟ
ลูกค้าพูดอย่างไม่พอใจ “ ผมจนปัญญาที่จะใช้นิ้วมือของผมคนกาแฟนี้ “

บ๋อยรีบผละไปอย่างรวดเร็วสักครู่ บ๋อยก็ได้ยกกาแฟอีกแก้วหนึ่งมาวางตรงหน้าลูกค้า

แล้วพูด “ ท่านครับกาแฟแก้วนี้ค่อยอุ่นหน่อยครับ ท่านสามารถใช้นิ้วของท่านคนได้แล้วล่ะครับ “

ปลุกเองสิ

ครูสายสมรหงุดหงิดอย่างแรง เมื่อเหลือบไปเห็นเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่อยู่แถวหลังสุด แอบนั่งสัปหงก ไม่สนใจบทเรียนที่เธอกำลังบรรยาย ครูสายสมรจึงตะโกนบอกเพื่อนนักเรียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ว่า
"นี่เธอ...ปลุกหมอนั่นให้ตื่นขึ้นเดี๋ยวนี้"
ได้ยินดังนั้น เด็กชายที่นั่งข้าง ๆ จึงตะโกนตอบกลับว่า
"ครูเป็นคนทำให้เขาหลับ ครูก็ปลุกเขาเองซิครับ"

ไม่มีปัญหา

เพื่อนผมคนหนึ่งขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด ด้วยความเหนื่อยล้าจากการขับรถทางไกลเขาก็เลยหลับใน ลืมตาขึ้นมาอีกทีเขาก็เห็นลูกวัวตัวหนึ่งอยู่ในระยะกระชั้นเกินกว่าจะหลบทัน แล้วก็ โครม!
เขาเลยหายง่วงเป็นปลิดทิ้งแล้วลงไปคุยกับเจ้าของวัวเรื่องค่าเสียหาย
“เอางี้แล้วกันพี่ ลูกวัวนี่ตัวละเท่าไหร่เนี่ย เดี๋ยวผมใช้ให้” เขาถาม
“เนี่ยพึ่งมีคนมาขอซื้อเมื่ออาทิตย์ที่แล้วจะให้สองพัน แต่ผมไม่ขาย” เจ้าของวัวบอก
“เอางี้ผมให้พี่สองพันห้าแล้วกัน ตกลงนะครับ” เพื่อนผมเสนอ หวังให้จบๆเรื่องไป
“โอ๊ย ไม่คุ้มหรอก ที่ผมไม่ขาย เพราะผมกะเลี้ยงไว้ขายตอนโต ผมกะเลี้ยงสัก 6 ปี ขายได้เหนาะๆสามสี่หมื่น เอางี้แล้วกันผมคิดสามหมื่นพอ” เจ้าของวัวแสดงความเขี้ยวออกมา
เพื่อนผมไม่พูดไม่จา หยิบสมุดเช็คขึ้นมาเขียนจำนวนเงินสามหมื่นเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้วยื่นส่งให้
“ไม่มีปัญหาครับ อีก 6 ปีพี่ไปขึ้นเงินได้เลย!”

คิดเลยเถิด

เมียผมหมดเงินไปเกือบสามหมื่นซื้อเครื่องประทินโฉมชุดใหญ่ที่คนขายรับประกันนักหนาว่าถ้าใช้แล้วจะต้องดูสาวไม่รู้สร่าง หลังจากโปะพอกสารพัดอย่างทั่วสรรพางค์กายอยู่หลายชั่วโมง เธอก็นั่งชื่นชมแมตัวเองอยู่หน้ากระจกอีกร่วมชั่วโมง ก่อนเอ่ยปากถามความคิดเห็นของผม
“ที่รัก ถ้าคุณไม่รู้อายุชั้น คุณจะคิดว่าชั้นอายุเท่าไหร่นี่”
ผมแอบส่ายหน้าด้วยความเซ็งกับสาวใหญ่ลืมแก่ แล้วพยายามพูดอย่างระมัดระวัง
“อืม… ถ้าดูจากผิวก็คงซัก 20 ดูผมก็ซัก 18 ถ้าจะเอาหุ่นก็คง 25 ได้”
“แหม คุณนี่ก็ ทำปากหวานไปได้” เธอม้วนร่างบึกบึนอย่างพยายามให้น่ารักที่สุดพร้อมกับตีแขนผมดังพลั่กเบ้อเร่อ
“เดี๋ยวสิจ๊ะที่รัก” ผมขัดคอก่อนที่เธอจะคิดเลยเถิดไปกันใหญ่ “ผมยังไม่ทันได้บวกเลย!”

มันตื่นเต้น

ชายสามคนคุยกันเรื่องประสบการณ์ตื่นเต้นระทึกขวัญของตัวเอง

คนแรกเริ่มเล่า
“เมื่อก่อนผมเป็นตำรวจ มีอยู่หนนึงได้รับมอบหมายให้ไปช่วยรักษาความปลอดภัยในการขนเงินจำนวนมาก ปรากฏว่ามีโจรกลุ่มใหญ่มาดักปล้นรถขนเงิน เกิดการยิงกันอย่างดุเดือด ฝ่ายผมตายไปสอง โจรถูกยิงตายหมดหกคนด้วยกัน”

ชายคนที่สองเล่าบ้าง
“ผมเคยเป็นตำรวจดับเพลิง มีอยู่หนนึงเกิดไฟไหม้ขึ้นบนตึกสูงแห่งหนึ่ง รถดับเพลิงฉีดขึ้นไปไม่ถึงชั้นบนๆ ในขณะที่ไฟลามขึ้นไป คนที่อยู่บนนั้นหมดทางหนี หลายคนกระโดดลงมาหวังเสี่ยงดวง มีอยู่คนนึงตกลงมาแหลกเหลวอยู่ต่อหน้าผมเลย”

ชายคนที่สามเล่าบ้าง
“ผมเคยเป็นสัปเหร่อ มีอยู่คืนนึงผมได้รับแจ้งให้ไปเก็บศพที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกผมว่าศพยังอยู่ใต้ผ้าห่ม ไม่มีใครกล้าไปแตะต้อง เมื่อผมเข้าไปในห้องผมพบว่าศพอยู่ใต้ผ้าห่ม เข้าใจว่าคงเปลือยกาย เพราะอวัยวะของเขาแข็งตัวตุงขึ้นมาตรงกลางผ้าห่ม ผมเดาเอาว่านี่คงเป็นเหตุผลที่คนไม่กล้าเปิดผ้าห่มถึงกับต้องเรียกผมมาจัดการ แต่ผมคิดดูอีกที การจะแบกร่างเขาลงไปทั้งสภาพอย่างนั้นผ่านล็อบบี้โรงแรมคงไม่ใช่ภาพที่น่าดูเท่าไหร่ ผมก็เลยหาไม้กวาดมาอันหนึ่ง แล้วพยายามฟาดให้อวัยวะของเขามันอ่อนตัวลงไป...”
“แล้วมันตื่นเต้นยังไง” ชายที่นั่งฟังอยู่ขัดคอ
“อ๋อ ถึงตอนนั้นผมถึงได้รู้ว่าผมเข้าผิดห้องน่ะ!!!”

 

อย่าเอ็ดไป

รถตำรวจพาชายแก่คนหนึ่งมาส่งบ้าน
“ถึงบ้านแล้วครับคุณลุง คราวหลังจำทางให้ดีๆนะครับ” ตำรวจบอกกับชายชราอย่างใจดี
“ตาแก่นี่แย่จริงๆ เธอไปสวนลุมมาตั้งหลายสิบปี หลงได้ไงนี่” ภรรยาบ่นสามีชรา
“จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป” ชายชรากระซิบกระซาบ “ใครบอกว่าชั้นหลงลืมล่ะ แค่ขี้เกียจนั่งรถเมล์กลับบ้านแค่นั้นเอง!!!”

 

ไม่บาปหรอกลูก

สาวใหญ่นางหนึ่งมาสารภาพบาปกับบาทหลวงในตู้สารภาพบาปที่โบสถ์
“คุณพ่อคะ ให้อภัยกับบาปของหนูด้วยเถอะค่ะ” เธอเริ่ม
“ลูกได้ทำอะไรลงไปหรือ” บาทหลวงถามอย่างเมตตา
“ทุกครั้งที่ส่องกระจก หนูจะคิดถึงแต่การชื่นชมตัวเองว่าสวยขนาดไหน หนูรู้สึกละอายมากค่ะ” เธอสารภาพ
บาทหลวงแอบแง้มฉากกั้นดูนิดหนึ่งแล้วบอก
“นั่นไม่เป็นบาปหรอกลูก แค่ความเข้าใจผิดน่ะ!”

 

! ดีจัง

ชายแก่สองคนนั่งคุยกันบนมานั่งในสวนสาธารณะ
“คุณรู้มั้ย ผมพึ่งจะซื้อเครื่องช่วยฟังเครื่องใหม่มา ราคาตั้งเกือบสามหมื่นแน่ะ แต่ก็คุ้มนะ ฟังชัดที่สุดเท่าที่ผมเคยมีมาเชียวแหละ” คนแก่คนแรกคุยอย่างภูมิใจ
“เรอะ! ดีจัง ซื้อมาจากไหนล่ะ” อีกคนชักสนใจ
“อะไรกันวะคุณนี่” ชายชราคนแรกค้อน “ก็ผมบอกแล้วไงว่าเกือบสามหมื่น”

ใจเย็นสิที่รัก

คู่แต่งงานใหม่เดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ภูเก็ต หลังจากกลับจากการชมพระอาทิตย์ตกดินที่ริมหาดอันสุดแสนจะโรแมนติก พวกเขาก็กลับเข้ามาในโรงแรม ที่ล็อบบี้โรงแรมนั่นเอง สาวสวยสุดเซ็กซี่นางหนึ่งเดินสวนมา จ้องมองทั้งคู่อยู่สักพักแล้วเอ่ยทักฝ่ายชาย
“ไง สมชาย สบายดีหรือ?”
บรรยากาศแปรเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นสุดประมาณ มีแต่ความเงียบตลอดทางจากล็อบบี้ถึงห้องพักในโรงแรม
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร บอกมานะ?” เจ้าสาวหมาดๆเปิดฉากโจมตีทันทีที่ประตูห้องพักปิดลง
“โธ่ ใจเย็นสิที่รัก” เจ้าบ่าวโอดครวญขอความเห็นใจ “แค่นี้ผมก็ปวดหัวพออยู่แล้ว ยังไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องคุณให้เธอฟังยังไงเลย”

อุตุ

อินเดียนแดงมาถามหัวหน้าเผ่าว่าหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้จะหนาวหรือเปล่า ถึงแม้จะไม่รู้แต่เพื่อไม่ให้เสียเชิง หัวหน้าเผ่าให้คำตอบว่า
“จะหนาว เตรียมตัดไม้เก็บไว้ทำฟืนได้เลย”

ด้วยความที่เป็นผู้นำที่ดี สองสามวันถัดมาเมื่อมีโอกาสเข้าเมือง เขาโทรไปถามกรมอุตุฯ
“หน้าหนาวนี้จะหนาวมั้ยครับ” เขาถาม
“เชื่อว่าน่าจะหนาวทีเดียวแหละครับ” คือคำตอบที่ได้

หัวหน้าเผ่ามีความมั่นใจมากขึ้น เขากลับไปเร่งคนในเผ่าให้ตัดไม้มากขึ้นเพื่อเตรียมรับหน้าหนาว แต่ก็นั่นแหละ เพื่อความมั่นใจ สัปดาห์ต่อมาเมื่อมีโอกาสเข้าเมือง เขาก็โทรถามอุตุฯอีกครั้ง
“หน้าหนาวนี้จะหนาวแน่หรือครับ” เขาถาม
“ท่าทางจะหนาวมากเลยแหละครับ” อุตุฯยืนยัน

หัวหน้าเผ่ากลับไประดมคนในเผ่าเต็มที่ สั่งให้ตัดไม้ให้มากที่สุด และเก็บเศษกิ่งไม้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยรวบรวมเอาไว้ให้มากเท่าที่จะมากได้ จนอีกสองสัปดาห์ต่อมาเขาก็เข้าเมืองอีกครั้ง และ แน่นอน เพื่อความมั่นใจ เขาโทรถามอุตุฯตามเคย
“คุณแน่ใจนะว่าหน้าหนาวปีนี้จะหนาวมากเลย” เขาต้องการคำยืนยัน
“โอ๊ย แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกคูณณณณณ” คนของอุตุฯตอบมา “พวกอินเดียนแดงตัดไม้เตรียมฟืนกันอย่างบ้าคลั่งเลยแหละ!”

 

ไม่เคยพลาด

หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่บนเครื่องบินที่กำลังบินขึ้น ข้างๆเขาเป็นชายท่าทางแปลกๆที่เอาหมาขึ้นเครื่องมาด้วย เขาให้หมานั่งอยู่บนเก้าอี้ว่างตัวหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างเธอกับเขา
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มันไม่กัดหรอก” เขาบอกกับเธอเมื่อเห็นเธอทำท่าไม่ไว้ใจ “ผมเป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบินนี้ ส่วนหมาตัวนี้เป็นหมาดมกลิ่นที่ถูกฝึกมาอย่างเชี่ยวชาญมาก ผมจะสาธิตให้คุณดูตอนมันทำงาน”
“ไปได้ ไอ้หนู” เขาบอกกับหมา
มันวิ่งไปตามทางเดินจนไปหยุดอยู่ข้างๆผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วนั่งลง 2-3 วินาทีก่อนที่จะกลับมาหาชายเจ้าของแล้ววางอุ้งเท้าข้างขวาบนมือเขา
“มันบอกผมว่าผู้หญิงคนนั้นมีโคเคน เดี๋ยวพอเครื่องบินลง ผมจะแจ้งตำรวจ แค่นี้ก็เรียบร้อย” เขาบอกกับหญิงสาว
หมาแสนรู้วิ่งออกไปทำงานอีก คราวนี้มันวิ่งเลยไปอีกสักพัก เช่นเดิมมันนั่งลงข้างผู้ชายคนหนึ่ง แล้ววิ่งกลับมา คราวนี้มันวางอุ้งเท้าข้างซ้ายลงบนมือเจ้าของ
“ผู้ชายคนนั้นมีกัญชา” เขาพูดอย่างภูมิใจ “เจ้านี่ไม่เคยพลาด เดี๋ยวผมจะบอกตำรวจตอนเครื่องลง”
หมาแสนรู้วิ่งออกไปอีกเป็นครั้งที่สาม คราวนี้มันหยุดที่ผู้ชายอีกคนหนึ่ง แล้ววิ่งกลับมาเอาอุ้งเท้าทั้งสองข้างวางบนมือเจ้าของ
“คราวนี้เป็นเฮโรอีน” เขาพูดในขณะที่หมาของเขาวิ่งออกไปอีก
คราวนี้มันวิ่งไปถึงท้ายเครื่อง นั่งลงสักครู่แล้วควบกลับมาอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
แล้วกระโดดขึ้นมานั่งบนเก้าอี้พร้อมกับอึออกมากองเบ้อเร่อ
“น่าขยะแขยงจัง” แม่สาวพูดออกมา “ทำไมมันทำแบบนี้ล่ะ”
ชายหนุ่มตอบกลับมาเสียงสั่น “มันเจอระเบิดน่ะสิ!!!”

 

ชายชรา

มีอยู่หนนึงผมไปงานเลี้ยงบ้านเพื่อนคนหนึ่งที่ต่างจังหวัด บ้านของเขาอยู่นอกตัวเมืองออกไปไกลพอดู แล้วยังแยกเข้าไปในทางลูกรังอีกร่วมสิบกิโล งานคืนนั้นจบลงค่อนข้างจะดึกมาก ผมกินเหล้าเข้าไปจนรู้สึกเมา แต่จำเป็นต้องกลับเพราะว่าผมมีธุระต้องทำตอนเช้าต่ออีก
ตอนผมออกมานั้นฝนตกหนักมาก ผมขับฝ่าสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนแทบจะมองไม่เห็นอะไรไปอย่างช้าๆบนถนนลูกรังที่ขรุขระเพื่อไปสู่ถนนใหญ่
ทันใดนั้นเอง หัวใจผมแทบหยุดเต้น เมื่อแสงแวบจากฟ้าผ่าทำให้ผมเห็นใบหน้าเหี่ยวย่นของชายแก่คนหนึ่งปรากฏอยู่ข้างหน้าต่างกระจกรถ เขาเคาะกระจกรถและพยายามพูดอะไรบางอย่างกับผม
ตอนนั้นสามัญสำนึกแบบเมาๆบอกผมว่า เป็นไปไม่ได้ที่มีคนมาเคาะกระจกรถที่กำลังวิ่งอยู่โดยที่เขาอยู่นิ่งไม่ขยับเขยื้อนได้ ร่างกายผมตอบรับสามัญสำนึกด้วยการเหยียบคันเร่งเต็มที่
เปรี้ยง!!! แสงจากฟ้าผ่าทำให้ผมเห็นชายชราคนเดิมอีกครั้ง
ผมขวัญหนีดีฝ่อสุดๆ “นี่มันไม่ธรรมดาแล้วโว้ย ตูไปทำอะไรเข้าวะเนี่ย ทำไมถึงได้มาเจอดีแบบนี้” ผมร้องตะโกนอยู่ในใจ ขาเหยียบคันเร่งหนักเข้าอีก
เปรี้ยง! เปรี้ยง! สายฟ้าฟาดซ้ำลงมาอีกสองครั้งติด ชายชราคนเดิมยังอยู่ที่เดิม
ตอนนี้ความกลัวถึงขีดสุดกลายเป็นความกล้าบ้าบิ่น
“เอาโว้ยเป็นไงเป็นกัน” ผมคิดในใจขณะที่ไขกระจกรถลง
“ลุง จะเอายังไงกับผม” ผมตะโกนสวนสายฝนที่ซัดเข้ามาในรถ
เสียงแหบๆตอบกลับมาจากใบหน้าเหี่ยวย่นนั้น
.
.
.
.
“ไอ้หม่า จะให้ข้าช่วยเอาอีแต๋นมาลากออกจากหล่มไหม?”

 

ไม่อยากโกง

สองหนุ่มนั่งคนกันอยู่ในร้านอาหารในขณะที่ดูข่าวภาคค่ำไปด้วย
ภาพในข่าวเป็นภาพคนเมายาบ้ากำลังจะโดดตึก ในขณะที่มีอาสาสมัครและตำรวจรวมทั้งไทยมุงจำนวนมากรอดูเหตุการณ์อยู่เบื้องล่าง
“พนัน100 บาทกันมั้ย อั๊วว่ามันไม่โดดหรอก” หนุ่มแรกว่า
“ได้เลย” หนุ่มสองรับคำท้าทันที
แล้วชายเมายาบ้าในทีวีก็โดดลงมาจริงๆ

“อั๊วไม่อยากจะเชื่อเลยว่ะ” หนุ่มแรกว่าขณะที่ควักกระเป๋าหยิบเงินยื่นให้เพื่อน
“อั๊วไม่เอาของลื้อหรอกว่ะ” หนุ่มสองบอก
“เฮ้ย สัญญาต้องเป็นสัญญา อั๊วแพ้พนันลื้อแล้วอั๊วก็ต้องจ่ายสิวะ” หนุ่มแรกยืนยัน
“พูดตรงๆเลยว่ะเพื่อน อั๊วเห็นข่าวนี่ตั้งแต่ตอนข่าวช่วงเย็นแล้วว่ะ” หนุ่มสองบอก “อั๊วไม่อยากโกงลื้อว่ะ”
“อั๊วก็ดูข่าวช่วงเย็นว่ะ” หนุ่มแรกพูดเสียงอ่อยๆ “แต่อั๊วไม่คิดว่ามันจะโดดอีกว่ะ!!!”

 

โล่งอก

สามีภรรยาขี่จักรยานแบบสองคนขึ้นไปบนจุดชมวิวบนยอดเขา
“โอย ถึงซะที ทางชันจริงๆ” สามีถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง
“ชั้นก็ว่างั้นแหละ ทางชันน่ากลัวจริงๆ” ภรรยาผสมโรง “นี่ถ้าชั้นไม่บีบเบรกไว้ตลอด มีหวังเราต้องไหลกลับลงไปแน่เลย!!!”

 

พูดผิดตรงไหน

หนุ่มสาวคู่หนึ่งปิ๊งกันแบบรักแรกพบ หลังจากคบหากันเพียงอาทิตย์เดียว ทั้งสองก็ตัดสินใจแต่งงานกัน
“ที่รัก ผมมีเรื่องจะบอกกับคุณอย่างหนึ่ง ไม่รู้คุณจะรับได้ไหม?” หนุ่มบอกกับแฟนสาว
“ลองบอกมาสิคะ” แฟนสาวแบ่งรับแบ่งสู้
“คือว่า...” หนุ่มอ้ำอึ้ง “ผมมีไอ้นั่นขนาดเท่าเด็กแรกเกิดน่ะ”
“โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร” แฟนสาวปลอบใจ “ชั้นไม่คิดมากหรอกค่ะ ชั้นรักคุณมากนะคะเรื่องแค่นี้ ทำไมชั้นจะรับไม่ได้ ถ้าคุณมีผู้หญิงอื่นก็ไปอย่าง ชั้นไม่เอาคุณไว้แน่ แต่พูดก็พูดเถอะค่ะ ชั้นก็มีความลับจะบอกกับคุณอย่างนึงเหมือนกัน”
“เรื่องอะไรหรือจ๊ะที่รัก” หนุ่มหูผึ่ง
“หน้าอกชั้นแบนราบเรียบยังกะของผู้ชายแน่ะค่ะ ชั้นเอาฟองน้ำยัดไว้ตลอดเลย ไม่รู้คุณรับได้หรือเปล่า”
“โธ่ที่รัก เรื่องของผม คุณยังรับได้ มีหรือที่เรื่องของคุณผมจะรับไม่ได้ ผมก็รักคุณมากนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกที่รัก” หนุ่มให้กำลังใจบ้าง

พิธีแต่งงานผ่านไปอย่างชื่นมื่น จนถึงเวลาเข้าห้องหอ เมื่อสาวเจ้าได้เห็นไอ้นั่นของสามี เธอเป็นลมสิ้นสติไปทันที

“พระเจ้า ไหนคุณว่าไอ้นั่นของคุณขนาดเท่าเด็กทารกไงคะ” เจ้าสาวเพ้อเป็นคำแรกเมื่อได้สติ
“ก็นี่ไง ผมพูดผิดตรงไหนเหรอ” หนุ่มแปลกใจ “ยาว 50 ซม. หนัก 3 กิโล เท่าเด็กแรกเกิดเลย!!!”

 

“ยาสาวสองพันปี”

ตำรวจจับสาวน้อยนางหนึ่งด้วยข้อหา”ต้มตุ๋น” โดยเธอพยายามขายยาเม็ดสีขาวขนาดพาราเซ็ตตามอลในชื่อ “ยาสาวสองพันปี” ให้กับคุณหญิงคุณนายจำนวนสิบกว่าคน เมื่อตำรวจตรวจสอบประวัติของเธอ พบว่าเธอเคยถูกแจ้งความดำเนินคดีด้วยข้อหาเดียวกันนี้มาก่อนหน้านี้แล้วถึงสี่ครั้ง โดยเกิดขึ้นในปี 1874, 1913, 1941 และ 1972

 

ยับไปหน่อย

มีชายชราสองคน กำลังนั่งเล่นหมากรุกกันอยู่ ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ข้างห้อง มีหญิงชราอยู่คนหนึ่ง เห็นชายชราสองคนนั้นกำลังนั่งเล่นหมากรุกอยู่ จึงคิดอะไรสนุกๆ ทำ จึงถอดเสื้อผ้าแล้วเดินผ่านห้องชายชราสองคนนั้น ชายชราคนหนึ่งพูดว่า "แกเอ้ย เมื่อกี้เห็นผู้หญิงเดินผ่านมั้ย อีกคนพูดว่า เห็นสิแล้วแกคิดยังไงบ้าง ชายชราคนแรกพูดว่า "ก็ใช้ได้ แต่เสียดายชุดที่แกใส่ยับไปหน่อย คงจะไม่ได้รีดมานาน

 

คนเก่ง

ชายหนุ่มกับภรรยาเดินประคองกันเข้ามาที่คลีนิคทันตแพทย์
“หมอช่วยถอนฟันให้หน่อยสิคะ ดิฉันกำลังรีบมากด้วยไม่ต้องฉีดยาชาหรอกค่ะ” ภรรยาว่า
“แหม คุณนี่ใจกล้าดีจังเลย นานๆจะเจอคนเก่งอย่างคุณซะทีนะครับ” หมอว่า “เอ้าไหนอ้าปากให้ผมดูหน่อยสิครับว่าซี่ไหน”
เธอรีบหันมาหาสามี
“เอ้า ที่รัก อ้าปากให้หมอดูเร็วๆสิคะ!!!”

 

โธ่ ที่รัก

“ที่รัก หลักจากที่ผมทำไม่ดีกับคุณมานาน ต่อไปนี้ผมจะทำให้คุณมีความสุขที่สุด” สามีบอก
“โธ่ ที่รัก” ภรรยาน้ำตาซึม “ชั้นคงต้องคิดถึงคุณมากเลย!!!”

 

น่าเกลียดชะมัด

คู่รักวัยรุ่นแอบไปนั่งจู๋จี๋กันอยู่ในสวนสาธารณะ เมื่อสาวน้อยเกิดรู้สึกปวดท้องฉี่ขึ้นมากระทันหัน
"หลบไปหลังพุ่มไม้นั่นแล้วกัน" ไอ้หนุ่มว่า "ผมจะดูต้นทางให้เอง"
แม่สาวยอมตามเธอเดินหลบไปหลังต้นไม้
ไอ้หนุ่มได้ยินเสียงเธอถอดกางเกงออก เขาจินตนาการถึงภาพเหตุการณ์หลังพุ่มไม้นั่น ความคิดสกปรกเข้ามาเยือน เขาย่องไปใกล้ๆ แอบยื่นมือ ไปแตะขา และเมื่อไม่มีการต่อต้านจากสาวน้อย เขาจึงค่อยๆเลื่อนมือขึ้นไปที่โคนขา
"เฮ้ย..." เขาอุทานเสียงสั่นเมื่อมือลูบไปเจอวัตถุกลมยาวกลางหว่างขาของสาวเจ้า "สมศรี... คุณไม่ใช่ผู้หญิงเหรอ..."
"ใครว่า" สาวน้อยตอบเสียงเซ็ง "ชั้นแค่ไม่ได้ฉี่... ชั้นกำลังอึอยู่!!!"

 

เหมือนกันเปี๊ยบ

เหมือนกันเปี๊ยบ   

เช้าวันหนึ่ง ณ สวนสาธารณะใจกลางเมืองหลวง เฒ่าสองคนกำลังนั่งคุยกัน
เฒ่า 1 : " หมู่นี้เรื่องอย่างว่าของนายเป็นงัยบ้างล่ะ"
เฒ่า 2 : " เรื่อง เซ็กส์ นะเหรอ เฮ้อออ เหมือนกับการกินข้าวล่ะ"
เฒ่า 1 : " อ่ะฮ้า!!! นายเนี่ยนะฟิตปั๋ง คึกคักทุกวันสามเวลาหลังอาหาร มีของดีอะไรบอกบ้างสิ"
เฒ่า 2 : " เปล่า ที่บอกว่าเหมือนกินข้าวล่ะ ก็คือตอนเราหิวจัดๆ ตั้งใจว่าจะกินเบิ้ลสอง แต่ที่ไหน
ได้ เอาเข้าจริงๆ จานแรกก็แทบกินเข้าไปไม่ไหวนะสิเพื่อน"

 

พ่อพันธุ์ชั้นดี

พ่อพันธุ์ชั้นดี   

สามีภรรยาคู่หนึ่งไปดูการประมูลวัว "นี่คือพ่อพันธุ์ชั้นดี ปีที่แล้วผสมพันธุ์ได้ถึง 60 ครั้ง"
โฆษกประกาศ ภรรยาสะกิดสามี แล้วแสดงความเห็น "คุณดูสิ ตกเดือนละตั้ง 5 ครั้ง"
" นี่คือพ่อพันธุ์ชั้นเยี่ยม ปีที่แล้วผสมพันธุ์ได้ถึง 120 ครั้ง" โฆษกเสนอพ่อวัวตัวที่สอง
" ตัวนี้ยังมากกว่าอีกตั้งเดือนละ 5 ครั้งเชียว" เธอเหน็บสามีอีก "คุณพูดอย่างนั้นทำไม"
สามีชักรำคาญกับการเปรียบเทียบ "แล้วนี่คือสุดยอดพ่อพันธุ์ ปีที่แล้วผสมพันธุ์ได้ถึง 365 ครั้ง"
โฆษกเสนอพ่อวัวตัวที่สาม ภรรยาตบแขนสามีแล้วตะโกน "ต๊าย! ทุกวันเลยนะนั่น แล้วดูคุณซิ"
สามีรำคาญสุดๆจึงตะโกนกลับ "เออ ทุกวันแล้วเป็นไง คุณลองไปถามโฆษกดูซิว่า
ไอ้ทุกวันนั่นน่ะมันกับตัวเมียตัวเดียวหรือเปล่า"

 

การทดสอบกิเลสก่อนเป็นพระ

การทดสอบกิเลสก่อนเป็นพระ   

..... หนุ่ม 3 นายเตรียมจะเป็นพระ จึงถูกพาไปทดสอบว่า สามารถจะตัดกิเลสได้หรือเปล่า พระผู้ใหญ่ให้แคนดิเดททั้งสาม ผูกลูกกระพรวนไว้ที่เจ้าหนูของแต่ละคน แล้วทยอยส่งตัวเข้าห้องทีละคน จากนั้นก็ให้นางระบำหน้าท้องตามเข้าไป ..... แม่สาวเซ็กซี่เริ่มยักย้ายร่ายรำ ยังไม่ทันเปิดผ้าคลุมหน้าด้วยซ้ำ
ทันใดนั้น ! เสียง "กรุ๊งกริ๊ง ๆ" ก็ดังขึ้น
..." โอ แพทริก"" พระผู้ใหญ่พูด" น่าผิดหวังมากที่เธอไม่รู้จักควบคุมตัวเองเอาเสียเลย ไปอาบน้ำเย็นซักชั่วโมงแล้วตามไปสวดมนต์"
... แพทริกออกจากห้องไป แคนดิเดทคนที่สองก้าวเข้ามา นางระบำเริ่มส่ายสะโพกอีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจึงเลิกผ้าคลุมหน้าออก แล้วส่งยิ้มยวน
ทันใดนั้น ! "กรุ๊งกริ๊ง ๆๆ"
..." โจเซฟ โจเซฟ" พระผู้ใหญ่ส่ายหน้า "เธอยังละทางโลกย์ไม่ได้เหมือนกัน
ไปอาบน้ำเย็นซักชั่วโมง แล้วสวดมนต์ขออภัยในบาป"
.... โจเซฟออกจากห้องไป แคนดิเดทคนที่สามก้าวเข้ามา นางระบำเปลื้องผ้าออกทีละชิ้นจนหมด แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณเธอจึงตวัดแขนโอบรอบคอเบียดกายสัมผัสเนื้อแนบเนื้อ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
..." เจมส์ ลูกพ่อ พ่อภูมิใจในตัวลูกมาก" พระผู้ใหญ่ชมเปาะ " มีแต่เธอเท่านั้นที่จะเป็นพระได้ ตามเจ้าคนจิตใจอ่อนแอทั้งสองคนนั่นไปอาบน้ำเถิด"
...... ทันใดนั้น "กรุ๊งกริ๊ง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

ไอ่ตุ๊ดเพื่อนผมมันเป็นทอม

ไอ้เจ้าตุ๊ดเพื่อนผมมันเป็นทอม
( ความจริงแล้ว มันเป็นน้องสาวของเพื่อน แต่เพราะอายุต่างกันเพียงปีเดียว
และพอมันโตเป็นหนุ่ม ก็กินเที่ยวด้วยกันจนสนิทเหมือนเป็นเพื่อนแท้ๆอีกคน)
ผมไม่รู้และไม่เคยถามพ่อแม่มันถึงเหตุผลที่ตั้งชื่อมันว่าตุ๊ด...
แต่ก็มั่นใจว่า...ตอนที่คิดชื่อมัน พ่อมันคงไม่รู้หรอกว่า
เมื่อถึงตอนที่ลูกสาวเขาโตเป็นหนุ่ม...
คำว่า “ ตุ๊ด”.... จะหมายถึง สาวประเภทสอง
และคงไม่รู้อีกเช่นกันว่า.... ลูกสาว ของเค้าจะโตขึ้นมาเป็นหนุ่มหล่อ เช่นนี้...
( พัฒนาการวิทยาการทางการแพทย์สมัยนี้ สามารถกำหนดเพศของลูกได้ตั้งแต่ตอนตั้งท้อง...
แต่ด้วย พัฒนาการทางสังคม ... พ่อแม่ ก็ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า
ลูกสาว จะโตขึ้นมาเป็นสาวแน่
หรือ ลูกชาย จะโตขึ้นมาเป็นหนุ่มจริง ๆ)...
และยุคสมัยนี้... สิ่งที่เคยถือว่าเพี้ยน ... มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

แล้วไอ้เจ้าตุ๊ดคนนี้ เป็นคนที่ปากไวใจตรง
ช่วง ที่เริ่มเป็นหนุ่ม ก็มีบ้างที่ออกเที่ยวเตร่ด้วยกัน เพราะ มันคิดว่ามันเป็นชายเหมือนเรา… เราก็เกรงใจ และ สงสารหากจะหักใจปฏิเสธ ไม่ยอมให้ไปด้วย...
และคงด้วยความที่มันพยายามลบปมด้อยในความไม่แท้ของมัน
เลยให้บ่อยครั้ง ที่มัน หางานให้เพื่อนได้ต้องเหนื่อยกันอยู่บ่อย ๆ ด้วยปากของมัน
ประเภท “ ไปไหนเอาไปแต่ปาก... ไปหาตีนเอาข้างหน้า”


หลายวันก่อน
ผ่านไปเห็น ไอ้เจ้าตุ๊ดมันกำลังแปรงขนหมาอยู่หน้าบ้าน เลยแวะทักทายตามประสาคนคุ้นเคย
แล้วก็ยืนคุยกับมันอยู่ได้สักพัก... มีรถเก๋งใหม่เอี่ยมมาจอดตรงประตูบ้าน

ชายหนุ่มร่างบอบบาง เดินอ้อนแอ้น นวยนาดออกมาจากรถตรงมาที่เราสองคน พร้อมกับเอ่ยปากถาม

“ พี่ฮ้า.... สถานีอนามัย.. ฯ. .. ไปทางไหน ฮ้า “

“ อ๋อ.... มันก็ไม่ไปทางไหนนี่ครับ ก็เห็นอยู่ที่เดิมแหละ”( อันนี้นึกไว้ในใจ)

แล้วก็เอ่ยตอบไปว่า "ไปตามทางนี่แหละครับ ถึงแยกข้างหน้า เลี้ยวขวาไปอีกสองกิโลก็ถึงแล้วครับ”

เรื่องน่าจะจบเพียงแค่นี้ หากเผอิญผมไม่ปากไวถามต่อด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี...

“ จะไปทำอะไรที่อนามัย ฯ เหรอครับ”

“ อ๋อ.... จะไปตรวจมะเร็งปากมดลูกน่ะฮ่ะ”

.....

“ กร๊ากกกกกกกกก......."..... เจ้าตุ๊ดครับ แหกปากหัวเราะลั่น แบบ ไม่มีเกรงใจใคร รวมทั้งไม่เกรงใจความสับสนทางเพศของตัวเองด้วยเลยแม้แต่น้อย

“ พี่แน่ใจนะว่าพี่มีมดลูกน่ะ…. กร๊ากากกกกกก " มันยังขำไม่เลิกครับ

“ ชั้น เป็นหมอย่ะหล่อน ...อนามัยเค้าเชิญมาตรวจชาวบ้าน..... อย่าตามไปตรวจด้วยละกัน จะแหกให้เจ็บเลย ....เช้อะ”... พูดเสร็จสะบัดตูดงอนตุ๊บป่องไปขึ้นรถเลยครับ......

 

เรื่องเสียว ๆ ของการเล่นเซ็กซ์โฟน
 

ในภาวะอากาศที่ร้อนจัดไปทุกหย่อมหญ้า...

สถานการณ์บ้านเมืองที่รุ่มร้อน...

เปลี่ยนบรรยากาศมาเล่าเรื่องร้อน ๆ อีกแบบดีกว่า...

เรื่องนี้ เพื่อนส่งมาให้ทาง mail นานแล้ว...

ตัดสินใจอยู่นานว่าจะนำมาเล่าต่อดีไหม...

จะเสียลุค "เซียน" รึเปล่า ?...

ในภาวการณ์แบบนี้ ไม่รู้จะอัพบล็อกอะไร...ก็เลยตัดสินใจเล่าสู่กันฟัง

ผู้ปกครองควรใช้วิจารณญาณ...

<center>................................</center>

ในฐานะนักท่องเว็บตัวยง

ป้ายแบนเนอร์พวกนี้ เป็นอะไรที่ทรมานใจผมอยู่นาน

ไม่ใช่เพราะผมสนใจหากิ๊กทางนี้หรอก

แต่อยากรู้ อยากรู้ อยากรู้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

อยากรู้มันมีอะไรในนั้น

มันเป็นยังไง มันมีคนมาคุยกับเราจริงๆ เหรอ

ลึกๆ ในใจก็รู้อยู่แล้วว่าหลอกล่อให้เราเสียค่าโทรไป

แต่ความอยากรู้มันเกาะกินหัวใจเหลือเกิน

อยากรู้ว่าโทรแล้วมันเสียวมั๊ย เค้าจะเริ่มทำกับเรายังไง

แป๊บเดียวเสร็จเลยเหรอ เค้ามีเทคนิคดีอะไร

ถือดีอะไรมาทำให้เราเสร็จ
..
แล้วเค้าจะรู้ได้ไงว่าเราเสร็จ
..
ถ้าเราเสร็จแล้วเราโกหกว่าไม่เสร็จเค้าจะทำไง
..
เค้าจะแจ้งตำรวจมาจับเรามั๊ย
.
.ถ้าเรากำลังเสียวอยู่ จู่ๆ ตำรวจถีบประตู (ภาพปลากรอบ ตำรวจ //ถีบประตู โครม!!!)
.
เราจะเสร็จตำรวจแทนมั๊ย
.
พอ!!!!
.
อยากเสร็จ แต่ไม่กล้าโทร
.
อายครับอาย.... อ๊าย...อาย
.
ใครจะว่าผมสะตรอ ผมก็ยอม
.
เรื่องนี้มันค้างคาใจผมมาแรมปี
.
แต่ฉบับ Vazzup มีอะไรที่ทำไม่ได้มั่ง
.
วันนี้ความอยากรู้ก็เลยระเบิด
..
คว้าโทรศัพท์ แล้วกด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
.
ตรูด ตรูด ตรูด
..
เสียงอัตโนมัติ "สวัสดีค่ะ ..."
.
กริ๊ก!
..
ผมวาง //เกาหัว แกร่ก ๆ
..
เดี๋ยวๆ
.
รับไวจังวะ
.
ยังไม่ได้ตั้งตัว
.
เอาใหม่ๆๆๆ
.
สังเวชตัวเองนิดๆ
.
ก่อนคว้าโทรศัพท์อีกที

กดใหม่ ตุ๊ดๆๆๆ
.
ตรูด ตรูด
.
"สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่..... ที่จะให้คุณรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ...
.
...โทรนาทีละ 9 บาท ยอมรับกด 1 ....
.
ตู๊ด ! //กดปุ่มเลข 1
.
(ไปแล้ว 9 บาทแรก)
.
...ขณะนี้คุณเข้าสู่โลกแห่งใหม่ ที่มีเพื่อนรอคุณอยู่....
.
...ก่อนอื่น ขอแจ้งให้ทราบว่า ถ้าคุณอายุไม่ถึง 18 ปี
.
เราไม่อนุญาตให้ใช้บริการนะคะ
.
(คิดในใจ อ้าวตะกี้เมิงไม่บอกก่อนให้กด 1 วะ อีฉัด)
.
ถ้าอายุเกิน 18 กดค่ะ...
.
ตู๊ด!
.
... อดใจรออีกนิดนึงค่ะ เราขอแจ้งข้อตกลงการใช้บริการก่อนนะคะ
.
ขณะสนทนาขอให้ใช้คำสุภาพ ...
.
บลาๆๆๆ...
.
บลาๆๆ....
.
ผมมองหาปุ่มกดผ่านขั้นตอนนี้ แต่มันไม่มี
.
มันพร่ำนานมาก ช้าด้วย
.
จนถึงตอนนี้ ผมใช้เวลาไปแล้วทั้งหมด 1.30 นาที
.
ยังไม่เสียวครับ ยังไม่ถึงช่วงเสียวเลย
.
ถ้ายอมรับแล้ว กด 1 นะคะ
.
ตุ๊ด! //กดปุ่มเลข 1
.
เปิดโลกใบใหม่ ขณะนี้มีเพื่อนใหม่รอคุณอยู่ในสายแล้วค่ะ ..
.
(เอามาเลย ได้โลกใหม่มาหลายโลกแล้ว ตอนนี้อยากเป็นโรคแล้ว เร็วๆ)
.
คุณเป็นผู้ชาย กด 1
.
(เอ้า!? ยังจะมีหน้ามาถามอีก)
.
ตุ๊ด //กดปุ่มเลข 1
.
กดอายุของคุณค่ะ
.
( ........... ) ...จะทำแมวไรฟระ
.
ตุ๊ด ตุ๊ด //กดปุ่ม เลข 2 หลัก
.
(เป็นคนอายุเลขสองหลัก เลยดังสองตุ๊ด)
.
แต่ก่อนอื่น..
.
(!!!...ไรของ---อีก)

เราอยากให้คุณฝากเสียงของคุณเพื่อให้เพื่อนใหม่ได้ฟั งก่อนค่ะ
.
...เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณแล้วพูดเลยนะคะ
.
."สวัสดีครับ ชื่อพีครับ เหงามากอยากคุยด้วย"
.
(มันกระทันหันมาก นึกชื่อไม่ออก เลยเอาชื่อเพื่อนที่ทำงานไปแอบอ้างก่อน)
.
ได้รับข้อความคุณแล้ว ฟังเสียงที่คุณพูด กด 1
.
แต่ถ้าอยากเปลี่ยนข้อความใหม่ กด 2
.
แต่ถ้าคิดว่าข้อความคุณเจ๋งแล้ว กด 3
.
เออ เจ๋งแล้ว ฟังแล้วเสียงเหมือนดีเจมาก
.
ผู้หญิงที่รับสายผมส่วนใหญ่มักเสร็จผมทุกรายล่ะ
.
ตุ๊ด! //กดปุ่มเลข 1
.
ให้คุณเลือกโหมดที่ต้องการค่ะ
.
(อะไรอีก อะไรอีก ..---)
.
กด 1 ห้องไพรเวท บลาๆๆ
.
กด 2 ห้องไพรเวทพิเศษสุดๆ บลาๆๆๆ
.
ฮ่าๆๆๆ ---มีขั้นกว่าด้วย
.
ผมว่าไอ้คนที่มันกด 2 มันต้องเป็นพวกหื่นมาก ๆ
.
แบบมือซ้ายยกหูโทรศัพท์ มือขวากำ…อยู่แน่ๆ ไอ้พวกมีปมด้อย

.

ตุ๊ด ! //กดปุ่มเลข 2 - -"

.
ขณะนี้คุณอยู่ในหมวดห้องไพรเวทพิเศษสุดๆ แล้วนะคะ
.
ขณะนี้มีเพื่อนของคุณอยู่ในสายแล้วนะคะ
.
(เอาแล้ว เอาจริงๆ เหรอ เราพร้อมหรือยัง เราพร้อมหรือยัง)
.
ฟังเสียงข้อความก่อนค่ะ
.
(เป็นเสียงอัตโนมัติเหมือนที่เราฝากข้อความเมื่อกี้)
.
"สวัสดีค่ะ"
.
(ผมสะดุ้งสุดตัว หูย! เสียงน่ารัก ปานน้องโฟว์มด)
.
หากต้องการคุยกับเพื่อนคนนี้ กด 1 ค่ะ
.
แต่กด 2 หากอยากคุยกับเพื่อนคนอื่นๆ
.
(ผ่านมาจะ 3 นาทีแล้ว ยังไม่ได้คุย ไม่เลือกแล้ว)
.
ตุ๊ด!! //กดปุ่มเลข 1
.
พร้อมแล้วนะคะ ขอให้คุยให้สนุกและอย่าลืมที่จะสุภาพค่ะ
.
ตรูด!!~~
.
(หัวใจเต้น ตึกตัก)
.
ตรูด!!~~
.
(ตึกตัก กระแอม อ่ะแฮ่มๆ เตรียมพร้อม ปั้นเสียงหล่อสุดฤทธิ์)
.
//มือซ้ายถือโทรแนบหู มือขวากำ…. พร้อม..!!!!)
.
กริ๊ก!!
.
สาว : "อ่ะโหล สวัสดีค่ะ"
.
ผม : "......................"
.
สาว : "โหลๆ"
.
ผม : ".............." (O___๐")
.
สาว : "............."
.
ผม : "กินข้าวยัง"
.
สาว : ".............. ยังเลย"
.
ผม : " ชื่อเอกครับ" (ตะกี้บอกชื่อพี โกหกให้เค้าจับได้เห็นๆ)
.
สาว : "ฝ้ายค่ะ"
.
ผม : "เล่นโทรศัพท์เหมือนกันเหรอ"
.
สาว : " ค่ะ"
.
ผม : "อยู่บ้านเหรอ"
.
สาว : "อือ กำลังนอนอยู่เลยเนี่ย"
.
ผม : " .................."
.
ผม : " อืม งั้นนอนต่อเถอะ ไม่กวนแล้ว"
.
สาว : "อ้าว!!!!!!!" (คิดในจัย แสดดดดดดดด)
.
วางหูกริ๊ก!!!
.
หน้าแดงฉ่า กูทำไรอยู่ กูทำไรอยู่
.
เสียงคนจริงๆ ด้วย
.
เสียงน่ารัก ตัวจริงไม่รู้
.
ผมยังคงความสุภาพบุรุษอยู่เสมอ
.
ผมไม่อยากรบกวนการนอนเค้าใช่มั๊ย
.
เค้าต้อง งง แน่ๆ
.
เค้าต้องสับสนในชีวิต
.
หลังวางหูแล้วเค้าดำเนินชีวิตยังไงต่อไป
.
หลังจากพูดอ้าวแล้ว
.
เค้าจะพูดอะไรต่อจากนั้น
.
อย่างน้อยต้องคิดในใจ
.
กรุซ์ทำไรผิด? กรุซ์ทำไรผิด?
.
ใครที่คิดจะใช้บริการนี้
.
ไม่แนะนำครับ
.
4 นาที 25 วินาที
.
45 บาท
.
"ไม่เห็นเสียวเลยสักนิด"
.

ไม่เสร็จด้วย

พอ ! ! ! ! ! ! ...

กลับหน้าหลัก